Career advice | 10 October 2023

ทำงานในยุค Digital ให้เก่งขึ้นได้ แค่เรียนรู้ที่จะเป็น Tech-savvy

ในยุคสมัยปัจจุบันที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายต่างก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชีวิตมนุษย์ในหลากหลายแง่มุม จนปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์เองก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวเพื่อก้าวทันเทคโนโลยีเหล่านั้นเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องของการทำงาน จนเริ่มมีการใช้คำว่า “Tech-savvy” มากยิ่งขึ้นในตั้งแต่การสมัครงานไปจนถึงการพัฒนาสกิลสำหรับการทำงาน

ว่าแต่ “Tech-savvy” คืออะไรกันแน่ แล้วทำไมถึงสำคัญกับการทำงาน? วันนี้ WorkVenture จะมาชี้แจงแถลงไขให้คุณเดี๋ยวนี้ พร้อม 4 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมกับการทำงานในโลกอนาคตด้วยการเป็นพนักงานที่ Tech-Savvy อย่างมีคุณภาพ!

 

 

Tech-savvy หมายถึงอะไร 

Tech-savvy หรือ Technology-savvy เป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้นิยามคนที่มีความรู้และความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้อย่างคล่องแคล่ว ในปัจจุบันคำว่า Tech-savvy เป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ในการทำงานที่คุณอาจจะได้เห็นคำนี้อยู่บ่อยครั้งจากประกาศรับสมัครงานของหลายองค์กรในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ในฐานะที่เป็นคุณสมบัติสำคัญที่องค์กรมากมายกำลังมองหาจากผู้สมัคร

 

ทำไมการเป็น Tech-savvy ถึงสำคัญ

จากรายงานของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ในปี 2023 เผยว่า มากกว่า 85% ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจมีแนวโน้มที่จะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตทางอาชีพภายในองค์กรได้ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผ่านความต้องการที่จะปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และขยายขอบเขตการเข้าถึงทางดิจิทัลมากขึ้นของตัวองค์กรเอง ทำให้เทคโนโลยีจะยิ่งมีบทบาทสำคัญกับการทำงานมากขึ้นในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ โดยเฉพาะกับการพลิกโฉมองค์กร

ดังนั้นหากมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องในสายอาชีพของคุณ การมีความรู้และทักษะการใช้ทางเทคโนโลยีที่ก้าวทันโลกจึงจำเป็นอย่างยิ่ง จนอาจเรียกว่า “ไม่มีไม่ได้” เพื่อลดช่องว่างทางทักษะเมื่อยุคสมัยและสไตล์การทำงานรูปแบบใหม่มาถึง ซึ่งทักษะการเป็น Tech-savvy จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

 

 

ตัวอย่างทักษะของมนุษย์ Tech-Savvy ที่ไม่รู้ไม่ได้

ในปัจจุบันทักษะทางเทคโนโลยีที่สำคัญมีมากมายและแตกต่างกันออกไปตามสายอาชีพ โดยคุณสามารถเลือกเรียนรู้และทักษะเหล่านี้ได้เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ รวมไปถึงสามารถใช้สำหรับการเปลี่ยนสายงานได้ เช่น

  • การมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ (Computer Literacy)

  • การจัดการ Social Media (Social Media Management)

  • การววิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis)

  • การจัดการฐานข้อมูล (Database Management)

  • การพัฒนาเว็บไซต์ (Website Development)

  • การทำการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing)

  • การเขียนโปรแกรม (Programming)

  • การตัดต่อวิดีโอและเสียง (Video and Audio editing)

  • การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)

  • การออกแบบ UX และ UI (UX and UI Design)

 

 

อยากเป็นคนที่ Tech-savvy ทำยังไงได้บ้าง

เมื่อคุณมีเป้าหมายหรือรู้แล้วว่าทักษะทางเทคโนโลยีด้านใดที่คุณสนใจเป็นพิเศษ คุณสามารถกำหนดวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น

  • เรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น การอ่านหนังสือ บทความ หรือดูวิดีโอจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในหัวข้อที่คุณสนใจบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดเงินที่สุดที่จะทำให้คุณเข้าใจภาพรวมของเรื่องที่คุณต้องการจะศึกษาเพิ่มเติม และเป็นการประกอบการพิจารณาในเบื้องต้นว่าคุณควรลงคอร์สเรียนในอนาคตหรือไม่

  • ลงคอร์สเรียนเพิ่ม นอกจากการหาความรู้ด้วยตัวเองผ่านสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ตแล้ว คุณยังสามารถลงคอร์สเรียนที่สอนเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนใจได้ เช่น  WorkShop หรือคอร์สเรียนออนไลน์ ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณได้ความรู้ในเชิงลึกมากขึ้นแล้ว บางคอร์สเรียนคุณอาจจะได้ทำโปรเจกต์เกี่ยวกับหัวข้อนั้นโดยตรง ทำให้มีผลงานสามารถนำไปต่อยอดในการสมัครงานได้

 

  • เก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรง ซึ่งจะได้ผลดีอย่างยิ่งกับคนวัยทำงาน เพราะคุณสามารถเข้าไปสอบถาม ยื่นมือเข้าช่วย หรือแสดงความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนรู้ได้เสมอ หากพบว่าเพื่อมร่วมงานหรือหัวหน้าของคุณกำลังจับโปรเจกต์ที่คุณสนใจอยากลองทำอยู่ วิธีนี้นอกจากที่คุณจะได้รับโอกาสในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการลงมือทำจริงแล้ว หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานของคุณก็จะพลอยเห็นถึงความตั้งใจนี้ด้วย นำไปสู่โอกาสดี ๆ ในชีวิตอีกมากมายที่อาจเข้ามาในอนาคต

  • เช็คว่าองค์กรของคุณมีสวัสดิการส่งเสริมการเรียนรู้ไหม เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่คุณสนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว การจัดอบรมจากทางบริษัทยังทำให้คุณมั่นใจว่าคุณจะได้เรียนรู้จากวิทยากรที่น่าเชื่อถือและมากประสบการณ์จริง ทำให้คุณสามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้กับงานของคุณให้มากที่สุดภายใต้การสนับสนุนจากบริษัท จนสามารถสร้างผลประโยชน์ที่มากขึ้นให้กับองค์กรได้

สำหรับการทำงานในยุคนี้ถ้าใครไม่เป็น Tech-Savvy หรือไม่มีความรู้และความสามารถทางเทคโนโลยีที่จะนำมาปรับใช้กับตำแหน่งงานได้ก็ถือได้ว่าเสียเปรียบผู้สมัครคนอื่นมากทีเดียว แถมยังทำให้คนวัยทำงานพัฒนาตัวเองได้ช้าอีกด้วย ดังนั้น WorkVenture จึงอยากแนะนำให้คุณลองฝึกฝนทักษะทางเทคโนโลยีเอาไว้ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดโอกาสเติบโตในอนาคตนั่นเอง